วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561

นวัตกรรมสร้างสรรค์เด็กดีมีคุณธรรม



อริยสัจ ๔
สร้างสรรค์เด็กดีมีคุณธรรม





จุดประสงค์
          ๑. เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนด้วยนวัตกรรม “อริยสัจ ๔ สร้างสรรค์เด็กดีมีคุณธรรม”
๒. เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีทัศนคติ การประพฤติปฏิบัติที่เน้นคุณธรรมจริยธรรมด้วยนวัตกรรม“อริยสัจ ๔ สร้างสรรค์เด็กดีมีคุณธรรม”

เป้าหมายในการดำเนินการ
๑. ครูมีนวัตกรรมด้านการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน
๒. ครูมีการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน
๓. นักเรียนมีคุณธรรมตามอัตลักษณ์ของโรงเรียนและได้รับการพัฒนาและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
๔. ผู้ปกครองนักเรียน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน เกิดการประสานและเอื้อประโยชน์ในการดูแลนักเรียนร่วมกัน









โครงงานเด็กไทยใส่ใจ สะอาดใสปิ๊ง
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านซับกระดาน



                    น้ำยาล้างจานจากมะนาว มีประสิทธิภาพในการชำระสิ่งสกปรก ช่วยในการชำระล้างสิ่งสกปรก มะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งทำปฏิกิริยากับไขมัน จึงช่วยขจัดคราบมันและกลิ่นคาว ส่วนหัวเชื้อ N70 ช่วยให้น้ำล้างจานของเรามีฟองน่าใช้ ดังนั้นน้ำยาล้างจานที่เราผลิตขึ้นนี้จึงเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทางเลือกใหม่ที่ดีอีกทางหนึ่ง ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายและทำจากสมุนไพรซึ่งมีความปลอดภัยกับภาชนะที่ใช้สำหรับรับประทาน เพื่อสุขภาพที่ดีของเด็กไทย


ส่วนผสม

                    N 70                                     250                         กรัม
                                                                 
                    F  24                                     250                         กรัม

                   ผงข้น                                     95                           กรัม

                  ผงฟอง                                    25                           กรัม

                  น้ำมะนาว   น้ำหอม  กันบูด สี   และน้ำสะอาด


                 วิธีทำ

                 1. นำ N 70 ผสมกับผงข้น คนให้เข้ากันเป็นครีมขาว 



                  2. เติม F 24 คนให้เข้ากัน




                3. เติมผงฟอง, น้ำหอม , กันบูด และสี คนให้เข้ากัน




               4. เติมน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน


                5. เติมน้ำทีละน้อย คนไปเรื่อยๆ ระหว่างเติมน้ำ คนไปในทิศทางเดียวกัน 


                 6.  คนจนเนื้อครียมเข้ากันและมีลักษณะเกือบใส ทิ้งไว้ให้ฟองยุบ บรรจุลงขวด




ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมพวกเราค่ะ/ครับ













                                 

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561

โครงงานผิวสวยใสด้วยกากกาแฟ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5


โครงงานผิวสวยใสด้วยสบู่กากกาแฟ


                   ในปัจจุบันผู้คนหันมาดูแลเอาใจใส่ต่อสุขภาพร่างกายผิวพรรณและความสวยความงามมากยิ่งขึ้น สังเกตจากการเปิดร้าน สปา ขัดผิวสมุนไพรซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าสนใจ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความสนใจที่จะทำสบู่ ที่สามารถขจัดคราบไคล จึงมีความสนใจกากกาแฟ จึงศึกษาค้นคว้าดู พบว่า ในกากกาแฟนั้นมีคุณประโยชน์มากมาย เหมาะสมจะนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ บำรุงผิวได้ โดยเฉพาะมีสาร antioxidant ที่จะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ดังนั้นการทำเป็นสบู่พร้อมทั้งขัดผิวให้สดใส น่าจะเหมาะสมที่สุด จึงมีความสนใจการทำสบู่กากกาแฟขึ้น





วัสดุ

วัสดุในการทำสบู่

1. กลีเซอรีนแบบใสชนิดแข็ง

2. กากกาแฟ

3. น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ

4. สีผสมอาหาร

เครื่องมือและอุปกรณ์

เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำสบู่

1. บีกเกอร์ 1ใบ

2. เตาตะเกียง 1 ชุด

3.แท่งแก้ว/ช้อนใช้คน 1อัน

4. แม่พิมพ์สบู่

5.หลอดระลายสี 1 ใบ

6. หลอดหยด

วิธีดำเนินการ

ตอนที่1 วิธีการทำสบู่


1.แบ่งกลีเซอรีนจำนวน 250 กรัม นำไปใส่ในบีกเกอร์ แล้วนำไปต้มที่เตาตะเกียงใช้ไฟอ่อนๆ


2.รอกลีเซอรีนละลาย ใช้ช้อนตักฟองออก

3.เมื่อกลีเซอรีนละลายหมดแล้วปิดไฟ นำบีกเกอร์ออกมาวาง รอให้เย็นสักครู



(ขณะนี้ใช้ช้อนคนสารตลอดเพื่อไม่ให้กลีเซอรีนแข็งตัว )


4. ใส่น้ำมันหอมระเหย และสีลงไป
5. ใส่สมุนไพรลงไป คือ กากกาแฟ แล้วคนให้เข้ากัน 



6. เทใส่แม่พิมพ์สบู่ รอสบู่แข็งตัวประมาณ 30นาที 




6.เมื่อสบู่แข็งตัวดีแล้วจึงแกะออกจากแม่พิมพ์แล้วเก็บให้มิดชิดอย่าให้โดนลม


7.นำสบู่ที่ได้ใส่บรรจุภัณฑ์ที่ได้เตรียมไว้แล้ว











โครงงาน "ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน"

        

                                                             




โครงงานคุณธรรม...
ตามแนวทางมูลนิธิยุวสถิรคุณ 
โรงเรียนบ้านซับกระดาน  
(โครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ) 

 1) ชื่อโครงงาน “ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน”
 2) ที่มาและความสำคัญของปัญหา 
      จากการดำเนินชีวิตประจำวันของนักเรียนโรงเรียนพบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านซับกระดาน ไม่ทิ้งขยะลงถัง, ไม่เก็บของใช้ให้เรียบร้อย และนักเรียนเวรประจำวันไม่ทำความสะอาด ห้องเรียน จึงทำให้ห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ไม่สะอาด ไม่เป็นระเบียบ ดังนั้น นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2560 จึงมีความสนใจที่จะทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดสิ้นไป จึงได้จัดทำโครงงานคุณธรรม เรื่อง “ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรียน”ขึ้น เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านซับกระดาน ปีการศึกษา 2560 จำนวน 8 คน มีความรับผิดชอบและห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความสะอาดเรียบร้อย
3) วัตถุประสงค์
      3.1 ด้านความรู้ (Knowleadge) เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบของ
            นักเรียน
      3.2 ด้านกระบวนการปฏิบัติ (Process) เพื่อให้นักเรียนช่วยกันรักษาความสะอาดของห้องเรียนและทิ้ง
            ขยะให้ลงถังและมีการฝึกความรับผิดชอบหน้าที่เวรประจำวันด้วยจิตอาสา
       3.3 ด้านเจตคติ (Attitude) เพื่อปลูกฝังความรับผดชอบ สร้างความตระหนักและจิตสำนึกในความ
             รับผิดชอบให้กับนักเรียนให้แก่นักเรียน
  ** 3.4 เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9)**
4) ปัญหา           ห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ไม่สะอาด
5) สาเหตุของปัญหา
    1. นักเรียนไม่ทิ้งขยะลงถัง
    2. นักเรียนเวรประจำวันไม่ทำความสะอาด ห้องเรียน
    3. นักเรียนไม่เก็บของใช้ให้เรียบร้อย
6) กลุ่มเป้าหมาย
     - เชิงปริมาณ : นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียนบ้านซับกระดาน จำนวน 8 คน
     - เชิงคุณภาพ : นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านซับกระดานมีความรับผิดชอบช่วยกันทำความสะอาด ไม่ทิ้งเศษขยะในห้องเรียน และห้องเรียนมีความสะอาดเรียบร้อย
     - เป้าหมายระยะสั้น (ระยะเวลา 6 เดือน) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านซับกระดานมีความรับผิดชอบช่วยกันทำความสะอาด ไม่ทิ้งเศษขยะในห้องเรียน
    - เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา 12 เดือน) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านซับกระดานมีความรับผิดชอบช่วยกันทำความสะอาด ไม่ทิ้งเศษขยะในห้องเรียน ห้องเรียนมีความสะอาดเรียบร้อยเป็นประจำทุกวัน
7) วิธีการแก้ไขปัญหา
     1. สร้างความตระหนักและจิตสำนึกในความรับผิดชอบให้กับนักเรียน
     2. ให้นักเรียนช่วยกันรักษาความสะอาดของห้องเรียนและทิ้งขยะให้ลงถัง
     3. ฝึกความรับผิดชอบหน้าที่เวรประจำวันด้วย จิตอาสา 
     4. ผู้บริหาร และครูเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียน
8) หลักธรรมที่นำมาใช้ อิทธิบาท 4
    1. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
    2. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
    3. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
    4. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น

ฉันทะ คือความพอใจ ในฐานะเป็นสิ่งที่ ตนถือว่า ดีที่สุด ที่มนุษย์เรา ควรจะได้ ข้อนี้ เป็นกำลังใจ อันแรก ที่ทำให้เกิด คุณธรรม ข้อต่อไป ทุกข้อ

วิริยะ คือความพากเพียร หมายถึง การการะทำที่ติดต่อ ไม่ขาดตอน เป็นระยะยาว จนประสบ ความสำเร็จ คำนี้ มีความหมายของ ความกล้าหาญ เจืออยู่ด้วย ส่วนหนึ่ง

จิตตะ หมายถึงความไม่ทอดทิ้ง สิ่งนั้น ไปจากความรู้สึก ของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็น วัตถุประสงค์ นั้นให้เด่นชัด อยู่ในใจเสมอ คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า สมาธิ อยู่ด้วยอย่างเต็มที่

วิมังสา หมายถึงความสอดส่องใน เหตุและผล แห่งความสำเร็จ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา

การจะทำงานให้มีประสิทธิผล และให้ดำเนินไปได้โดยราบรื่น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำด้วยความรับผิดชอบอย่างสูง ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือนจุดประสงค์ที่แท้จริงของงานสำคัญที่สุดต้องเข้าใจความหมายของคำว่า ความรับผิดชอบ ให้ถูกต้อง พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 16 กรกฎาคม 2519) 


การบูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. ความพอประมาณ .ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีในห้องเรียนอย่างประหยัด พอเพียง
2. ความมีเหตุผล รู้จักเลือกการใช้วัสดุในห้องเรียนให้เป็นประโยชน์
3. ความมีภูมิคุ้มกันที่ดี ทำให้ห้องเรียนมีความสะอาด เรียบร้อย เงื่อนไข
    1. เงื่อนไขความรู้ รับรู้ถึงการปลูกจิตสำนึกความรับผิดชอบ ความสามัคคี
    2. เงื่อนไขคุณธรรม มีความรับผิดชอบ มีจิตอาสา ในการทำความสะอาด ทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่นเพื่อส่วนรวมในสังคมปัจจุบัน

 9) ความเชื่อมโยงสู่คุณธรรมอัตลักษณ์ เชื่อมโยงกับคุณธรรมเป้าหมาย : ความรับผิดชอบ พฤติกรรมบ่งชี้เชิงบวก : ผู้บริหารและครูมีการปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของความมีวินัยและรับผิดชอบ และเอาใจใส่ในให้นักเรียนในการเรียนการสอน การปฏิบัติตนของนักเรียน นักเรียนทำงานที่ได้รับมอบหมายตรงตามเวลาและห้องเรียนมีความสะอาด เรียบร้อย เป็นประจำทุกวันและต่อเนื่อง
 10) วิธีการวัดและประเมินผล
       10.1 วิธีการวัดผล วิธีการประเมิน : การสังเกต
       10.2 เครื่องมือการวัดผล เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน : แบบสังเกต
       10.3 ช่วงระยะเวลา ช่วงเวลาการประเมิน : สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
11) ผู้รับผิดชอบโครงงาน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 8 คน
12) ที่ปรึกษาโครงงาน ครูณหทัย มีเหมือน ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2560

แนะนำโรงเรียนบ้านซับกระดาน

ครอบครัว

16 วิธีการทำบุญ โดยไม่ต้องไปวัด!!

16 วิธีการทำบุญ โดยไม่ต้องไปวัด!!

1. ดูแลพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ที่อยู่ในบ้านให้ท่านมีความสุข อย่าทำให้ท่านเดือดร้อนใจ หรือเป็นทุกข์ ถ้ามีโอกาสอาจซื้อของมาฝาก และเรียกพวกท่านให้รับประทานของที่เราซื้อมา

2. ตักบาตรตอนเช้าก่อนที่จะไปทำงาน

3. สวดมนต์ วันละ 1 บท

4. ถวายน้ำเปล่า 1 แก้ว หรือ อาหารคาวหวาน หรือ จะเป็นดอกไม้พวงมาลัย ให้พระพุทธรูปที่บ้าน

5. นั่งสมาธิอย่างน้อย 5 นาที

6. ไม่กินเนื้อสัตว์

7. พูดคุย หรือ สั่งสอนเรื่องธรรมะ

8. ทำบุญกับพระสงฆ์ที่พบระหว่างการเดินทาง เช่น หากพบเจอพระสงฆ์ยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ก็อาจะไปบอกท่านว่า เราต้องการทำบุญ เนื่องจากไม่มีเวลาจะไปที่วัด และขอเสนอตัวไปขับรถไปส่งท่าน ณ. จุดมุ่งหมาย หรือ อาจถวายเงิน, ผ้าไตร, ผ้าจีวร หากพบว่าท่านกำลังซื้ออยู่ หรือ มีร้านอยู่ใกล้ ๆ พอดี

9. ถ้าทราบว่าใครเดือดร้อนเรื่องใด ๆ ก็ให้ช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจและเราก็จะต้องไม่เดือดร้อน ทำตามกำลังความสามารถของเรา อาทิ ช่วยคนแก่ให้ข้ามถนน, แอบได้ยินคนคุยกันว่าไม่มีเงินกินข้าวหรือเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดก็ให้เงินเขาไปทั้ง ๆ เขาไม่ได้เดินมาขอ เป็นต้น

10. ให้คำแนะนำที่ดี ๆ กับผู้ที่มีความทุกข์และเดินเข้ามาขอคำแนะนำจากเรา ให้มีความสะบายใจโดยที่คำแนะนำของเรานั้นจะต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

11. ช่วยคนที่เขาเอาของมาขายกับเรา ( ตรงนี้ยกเว้นล๊อตเตอร์รี่นะค่ะ… เพราะเราหวังผลจากล๊อตเตอร์รี่ที่ซื้อไปว่าอาจจะถูกรางวัล ซึ่งการทำตรงนี้เราจะต้องไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น )

12. ดูแลสัตว์เลี้ยงที่บ้านเป็นอย่างดี อาทิ อาบน้ำ, จานใส่อาหารต้องสะอาด,ดูแลเรื่องความสะอาดเรียบร้อยของกรงหรือที่อยู่อย่าให้มีกลิ่นเหม็น, หมั่นพูดคุย, คอยสังเกตุว่าเขาชอบหรือรักอะไรก็ให้เขาไป เช่น ชอบนอนในถุง หรือ ชอบนอนกับตุ๊กตา, วโรกาสพิเศษก็มอบของให้เขาด้วยเช่นกัน อย่าคิดว่าเขาเป็นสัตว์เลี้ยง

13. จาน ชาม กินเสร็จแล้วควรล้างขึ้นมาทันที หรือ ถ้าไม่มีเวลา อย่างน้อยที่สุดก็ควรล้างเอาเศษอาหารออกให้หมดก่อน เพราะมดจะได้ไม่ขึ้นมาบนเศษอาหาร ทำให้เวลาล้างต้องราดน้ำไปที่มดทั้งหมด

14. ถือศีล 5

15. ให้อภัยในสิ่งที่เขามาว่าเราไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ ก็ตาม

16. สิ่งของที่ไม่ใช้ก็ให้คนอื่นไปใช้ประโยชน์

ที่มา
saraupdate

บทความดีๆ "คนมีองค์"

#คนมีองค์ต้องปฎิบัติให้ถูกให้เข้าใจในสิ่งมงคลที่มี
                         🌻🌿😇                การที่เรามีองค์เทพพรหมเทวดาปกปักรักษา
องค์เทพพรหมท่านมีบุญบารมีที่มากมายมากจริงๆ *ถ้าท่านไม่มีประสงค์หรือไม่มีกิจอันพึงกระทำ  ที่จะต้องผ่านร่าง  หรือใช้กายสังขารของมนุษย์ผู้นั้น
ต่อให้เราจะอ้อนวอนขอท่านเพียงใด  ท่านก็ไม่ลงมาประทับดอกนะ..
🌺#มันเป็นกฏข้อห้ามของสวรรค์ 🌺 หน้าที่ทุกอย่างถูกลิขิตไว้แล้วด้วยบุพกรรมและหน้าที่  หลายคนพอมีองค์  ไปรับขันธ์แล้ว  กลับมาก็ไหว้พระสวดมนต์แต่เข้าใจผิดว่าองค์จะต้องลงเหมือนคนอื่นๆ การคิดเช่นนั้นเป็นการคิดผิดมากๆนะ การรับขันธ์ไม่ใช่เพื่อให้องค์ลงมาประทับ  แต่เป็นการถวายสัจจะต่อเทพต่อพรหม  ถวายสัจจะอย่างไรก็ไปหาข้อมูลอ่านให้เข้าใจเถอะนะ  มีครูบาอาจารย์และท่านผู้รู้หลายท่านให้ข้อมูลที่ตรงกัน พอองค์ไม่ลงก็อย่าไปคิดท้อใจน้อยใจเลิกปฏิบัติเสียกลางคันนะ เพราะองค์ที่มาปกปักรักษามนุษย์มีหน้าที่แตกต่างกันไปตามกำลังบารมีที่ลงมาและตามบัญชาแห่งเทวโลก

🍀🍁#แม้ไม่รับขันธ์เทพเทวดาก็คุ้มครองรักษาท่าน
*หากท่านทั้งหลายเป็นคนดีมีศีลธรรม..มีสัจจะ
มีการสร้างบุญทานบารมีและการปฎิบัติความเพียรทางธรรม
*เช่น..ไหว้พระสวดมนต์..เจริญกรรมฐาน..และแผ่เมตาอยู่เป็นประจำเป็นนิสัยอยู่ตลอดแล้ว
*~องค์เทพองค์พรหมและเทพเทวดาที่มีบุญกรรมเกี่ยวข้องกับเรา
ท่านจะส่งญานบารมีมาปกปักคุ้มครองเราเอง
*นับว่าเป็นบุญเท่าไหร่แล้วที่เรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีศีลมีธรรมปกปักรักษา

🌿#แม้ว่าท่านจะรับขันธ์มา
แต่ถ้าท่านเป็นคนไม่มีสัจจะ..ไม่มีจิตคิดดี
*ไม่สร้างบุญบารมีหรือปฎิบัติความเพียรทางธรรมเพื่อขัดเกลาตนแบบจริงจัง
*หรือทำบุญทานต่างๆแต่มีจิตคิดอกุศลมากกว่าจิตกุศล
*มีจิตคิดร้ายมากกว่าจิตดีที่คิดดี
*~องค์เทพท่านก็ไม่รักษาคุ้มครองท่านหรอกนะ..แม้จะรับขันธ์มากี่ขันธ์ก็ตาม

*~เพราะองค์เทพท่านมาคุ้มครองท่านด้วยความดีที่ท่านทำและจิตกุศลที่ท่านมี
 *~การมีองค์มันเป็นปริศนาธรรมอย่างหนึ่งที่มนุษย์ทั้งหลายมักจะมองข้ามไป.....คือ...?????
🌺🌿 #ท่านมาเพื่อให้เราพิจารณาว่า
เหตุใดท่านจึงเป็นเทพเป็นพรหมเสวยวิมุติสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นต่างๆ  ก็เพราะในครั้งเป็นมนุษย์ปุถุชน  ท่านครองศีลบริสุทธิ์  ประกอบกิจการทั้งปวงหน้าที่การงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต  ทำนุบำรุงพระบวรพุทธศาสนา  เข้าวัดฟังธรรม  เจริญวิปัสนากรรมฐาน  ทำบุญให้ทาน  แผ่เมตตาโปรดสรรพสัตว์อยู่เป็นนิจ  มีมนุษยธรรม  มีเมตตาธรรม  มีพรหมวิหาร  4  ปฏิบัติวัฏบท  7  ประการอยู่เป็นนิจ  ใฝ่ในการให้และชักชวนปวงชนทั้งหลายทำบุญให้ทาน  เมื่อตัวตายกายดับ หมดอายุขัยแล้ว จิตก็พลันไปบังเกิดเป็นเทพเป็นพรหมที่ทรงญาณบารมี  อย่างที่เราเห็นและสัมผัสกันอยู่ในปัจจุบันนี้  เมื่อเราเห็นว่าเทพพรหมท่านปฏิบัติอย่างไรจึงได้ไปเป็นเทพเป็นพรหม  เราก็สมควรปฏิบัติเอาอย่างท่าน  ถึงจะยังไม่หลุดพ้นเข้าสู่มรรคผลนิพพาน  แต่เราก็ยังมี  "เสบียงบุญ"ที่สะสมเอาไว้ เพื่อนำไปใช้ในยามละโลกอันน่าเวทนานี้

🌞 #และปริศนาธรรมอีกประการคือ 🌞 การที่เทพพรหมเทวดาท่านต้องลงมาจับร่างมนุษย์สร้างบารมีเพิ่มนั้น  เพราะถึงจะเป็นเทพเป็นพรหมเสวยสุขอันเป็นทิพย์อยากได้สิ่งใด  ปราถนาสิ่งใดก็นึกคิดเอา เนรมิตเอา มีสุขถึงเพียงนั้น
*~ท่านก็ยังมีกาลเวลาที่เรียกว่า  "สิ้นบุญ"  จากสวรรค์ชั้นที่ท่านสถิต  ยังต้องเวียนว่ายไปในภพภูมิต่างๆ  เช่นกัน  ดังนั้นการทำอยางไรจึงเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ได้นาน  และทำอย่างไรเมื่อต้องไปเวียนว่ายอยู่ในภพภูมิต่างๆ แล้วจะมี  "เสบียงบุญ"  ติดตามดวงจิตไป  ท่านจึงเลือกที่จะส่งกำลังญาณบารมีมาโปรดสัตว์  ช่วยมนุษย์  นำพาและดลจิตดลใจให้มนุษย์ผู้มีบุพกรรมสัมพันธ์กับพระองค์
ได้คิดดี  พูดดี  ทำดี  มีศีลธรรม รักษาศีล ให้ทานเจริญภาวนาอยู่เป็นนิจ*ซึ่งจะได้อานิสงค์มากทีเดียว  อันพอที่จะเป็นกำลังบุญช่วยให้ท่านยังคงเสวยวิมุติสุขอยู่บนสวรรค์ได้อีกนาน  เปรียบเสมือนเรามีเงินล้านก้อนโต  ถ้าเราใช้ไปทุกวันมันก็มีวันหมดกลายเป็นศูนย์  แต่ถ้าเราใช้เงินล้านก้อนโตนั้น  มาสร้างงานสร้างการให้เกิดปะโยชน์กำไรงอกงามขึ้นมา  เราก็มีกินมีใช้ไปอีกนาน......ฉันใดก็ฉันนั้น 👼#ท่านต้องการแสดงให้เราพิจารณาเห็นว่า  ทั่วทั้งสามภพนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน  ทุกรรพสิ่งต้องถูกแปรเปลี่ยนไปตามกาลตามเวลาทั้งสิ้น
มีเพียง "พระนิพพาน"  เท่านั้นที่เป็น  "นิรันดิ์"
นี่คือปริศนาธรรมของการมีองค์
นี่คือหัวใจของทางสายเทพสายพรหมนะเจ้าค่ะ. .  ..🌺🌿🌺

*~*~*เอวัง*ก็มีด้วยประการชะนี้แล

                      🌺มนต์🌺
          ลูกพิฆเณศ...ผู้ขัดเกลาตน

นวัตกรรมสร้างสรรค์เด็กดีมีคุณธรรม

อริยสัจ ๔ สร้างสรรค์เด็กดีมีคุณธรรม จุดประสงค์           ๑. เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนด้วยนวัตกรรม...